วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การเลือกหลอดไฟและประเภทโคมตกแต่งในบ้าน

การเลือกหลอดไฟและโคมแต่งในบ้าน

การเลือกหลอดไฟและประเภทโคมตกแต่งในบ้าน   
  
แสงไฟที่ใช้ในบ้านแบ่งเป็น 3 ลักษณะ
แสงสว่างทั่วไป  (Background Lighting)
          เป็นการใช้แสงทดแทนแสงธรรมชาติโดยให้แหล่งกำเนิดจากที่สูงได้แก่ไฟที่ติดบนเพดานผนังหรือโคมไฟห้อยจากเพดาน
แสงเพื่อทำงาน (Task Light)
          เน้นระดับแสงที่สว่างเป็นพิเศษ และควรให้แสงสว่างอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ทำให้เกิดเงามืดบนพื้นที่ทำงาน
แสงสำหรับเน้น (Accent Light)
          สำหรับการเน้นแสงเงาเพื่อสร้างมิติให้งานตกแต่ง แสงประเภทนี้เกิดจาก ดวงไฟสปอตไลท์ไฟส่องรูปภาพ(Picture Light) ไฟที่ซ่อนอยู่ในช่องว่างของผนัง รวมไปถึงโคมไฟตกแต่งต่างๆเมื่อรู้จักลักษณะแสงไฟที่ใช้ภายในบ้านแล้ว ต่อมาควรรู้จักประเภทขอหลอดไฟซึ่งให้แสงที่มีลักษณะการใช้งานและให้ผลกับความรู้สึกต่างกันไป
          ประเภทของหลอดไฟก็สำคัญไม่แพ้กัน หลอดไฟที่ใช้กันในบ้านมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ
          หลอดไส้ทังสเตน (tungsten) จะให้แสงที่อบอุ่น ออกโทนสีเหลือง และเหมาะสำหรับการใช้ในงานตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศและแสงเงาที่สวยงามเหมือนแสงธรรมชาติ และสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์หรี่ไฟ( Dimmer ) แต่มีข้อเสียที่อายุการใช้งานสั้น
          ฮาโลเจน (Halogen) หลอดไฟชนิดนี้จะให้แสงที่ดูขาวและสว่างกว่าทังสเตน เพราะภายในหลอดไฟจะใส่ก๊าซฮาโลเจน ซึ่งช่วยให้แสงแสดงรายละเอียดของสีสัน ที่ให้ความรู้สึกสดใสและสว่างมาก เหมาะจะใช้กับโคมไฟสปอตไลท์ เพื่อเน้นจุดสำคัญ แต่มีปัญหาเรื่องความร้อนสูงมาก แต่ก็สามารถใช้ชุดหรี่ไฟติดเพื่อปรับปริมาณแสงและความร้อนได้ตามต้องการ
          ฟลูออเรสเซ้นต์ (Fluorescent) แสงไฟชนิดนี้ได้รับความนิยมมากเพราะราคาถูกและประหยัดพลังงานแต่แสงมีผลต่อโทนสีของห้องที่เพี้ยนจากสีจริงไปทางสีฟ้า แต่ในปัจจุบันมีการใช้ชนิดของแก้วสีเพื่อปรับแสงสีและปรับให้แสงไฟดูนุ่มนวลมีโทนขาว และเหลือง เพื่อให้แสงดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
          สรุปลักษณะของแสงและความเหมาะสมในการใช้งาน ของหลอดประเภทต่างๆชนิดของหลอดไฟ
          โทนสีของหลอดหลอดไส้ โทนอุ่น เช่น ส้ม แดงสดใส และขาวอมสีฟ้า เหมาะกับห้องที่ต้องการสร้างบรรยากาศอบอุ่นโรแมนติก อย่างห้องนอน ห้องรับประทานอาหาร
          ฟลูออเรสเซ็นต์ โทนสีขาว ส่วนใหญ่แสงจะอมฟ้า และเขียว ให้แสงที่สว่างมาก สีห้องไม่เพี้ยนตามแสงสีและประหยัดไฟเป็นพิเศษจึงเหมาะกับพื้นที่ทำงาน
          ฮาโลเจน โทนเหลืองอบอุ่น ให้แสงสว่างเน้นเฉพาะจุดได้ดี เหมาะกับ ส่องเน้นงานศิลปะ ของตกแต่งบนผนังหรือในตู้โชว์
สุดท้ายลองมาดูชนิดของโคมไฟที่จะสร้างให้เกิดบรรยากาศอย่างที่ต้องการ
รูปแบบโคมที่ให้บรรยากาศแสงต่างกันไป
ไฟเพดาน ดาวน์ไลท์
          เป็นโคมไฟที่ใช้ง่ายและนิยมมากที่สุดเพราะให้แสงสว่างได้ทั่วถึงทั้งห้อง  แต่อย่างไรก็ตามการใช้แสงชนิดนี้เพียงอย่างเดียว ถึงห้องจะดูสว่างก็จริงแต่ขาดมิติ ควรมีการเพิ่มแสงไฟ เน้นเฉพาะจุดสปอตไลท์และติดตั้งชุดหรี่ไฟ เพื่อปรับความสว่างเฉพาะจุดได้ตามต้องการ

โคมไฟระย้า
          รูปแบบของโคมไฟห้อยเพดานนั้น จะทำให้แสงกระจายลงมาเท่ากันในทุกทิศทางเฉพาะพื้นที่ใช้งานเหมาะกับการเน้นพื้นที่เฉพาะ อย่างโต๊ะรับประทานอาหาร  ชุดรับแขก  โดยสามารถควบคุมทิศทางของแสงได้ด้วยลักษณะโคม ที่ปล่อยให้แสงส่องลงล่าง หรือบนเพดาน หรือความสูงต่ำของโคมก็มีผลกับความสว่างของการใช้งานได้ รวมทั้งสีของโคมก็มีผลต่อแสงสว่างที่ออกมาดังนั้นต้องดูให้เหมาะสม
ไฟสปอตไลท์
          มีลักษณะแสงที่ส่องตรงเฉพาะจุด และก้านโคมสามารถปรับตำแหน่งได้เพื่อส่องให้ตรงกับรูปภาพต้นไม้ผนังที่หรือสิ่งของที่ต้องการเน้นให้ดูเด่น สามารถติดได้ทั้งบนเพดาน ผนัง และพื้น

ไฟผนัง ( Wall Light)
          เป็นไฟที่ให้แสงสว่างเน้นบนผนังเพื่อกระจายออกด้านหน้า โดยแสงออกเพดานและพื้นด้วยมักจะอยู่ในรูปของโป๊ะที่ยื่นออกมาจากผนัง จึงเหมาะ สำหรับหน้าโต๊ะแต่งตัว เพราะจะให้แสงสว่างโดยไม่เกิดเงาบนใบหน้า
          โคมไฟตั้งโต๊ะ (Table Lamps) และโคมไฟตั้งพื้น (Floor Lamps)
          โคมไฟตั้งโต๊ะจะให้แสงที่นุ่มนวล และกระจายแสงในมุมแคบ โดยขึ้นอยู่กับรูปแบบของโคมเหมาะกับการสร้างบรรยากาศในมุมที่มืดของบ้าน หรือมุมที่ต้องการความสว่างเฉพาะจุดเช่นการอ่านหนังหัวเตียงหรือมุมนั่งเล่น ซึ่งตรงนี้อยู่ที่ความพอใจเรื่องดีไซน์เข้ากับบ้านมากกว่าแสงสว่างในการใช้งาน
          โคมไฟโต๊ะทำงาน (Desk Lamps)
          จุดประสงค์ของมันก็คือการให้แสงสว่าง ตรงไปยังบริเวณที่ต้องการโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงออกแบบให้สามารถปรับองศาได้หลากหลายเพื่อไม่ให้เกิดเงามืดของมือบังแสงขณะอ่านหรือเขียนหนังสือ
           เมื่อรู้จักแสงไฟจากหลิดและโคมประเภทต่างๆแล้วลองนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้กับห้องของคุณดูล่ะกันหวังว่าคงจะช่วยให้บรรยากาศในห้องดูดีขึ้นบ้าง

ที่มาจาก : homepro.co.th

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไฟฟ้าลัดวงจร คำที่ได้ยินบ่อยมาก มีความจริงแค่ไหน?

แทบจะทุกครั้งที่ไฟไหม้บ้าน เรามักจะได้ยินข้อสันนิฐาณว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ผมคิดว่าความเป็นไปได้สูงเหมือนกัน วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่ผมเคยเจอ ในฐานะวิศวกรไฟฟฟ้า ที่ทำงานมานาน ผมอยากให้เราลองพิจารณาแบบนี้
  • ผมคิดว่าเกือบ 100 % เมื่อติดตั้งระบบไฟฟ้าในบ้านแล้วเราแทบไม่มีการบำรุงรักษา โดยเฉพาะแบบที่ติดตั้งใต้ฝ้าเพดาน ซึ่งยากต่อการสังเกตุ และสายไฟฟ้าบริเวณนี้มักจะถูกกัดด้วยหนูอยู่บ่อยๆ
  • จุดต่อสายไฟที่ขัดสกรูหรือตีเเกียวไว้ มักเกิดการหลอม ปกติต้องมีการตรวจสอบบ้าง เพราะตัวนี้แหละ จะเป็นสาเหตุทำให้ เกิดความร้อน วิธีสังเกต คือจุดต่อไหนร้อนหรือไม่ จะสังเกตได้จากหัวน๊อตมีการเปลี่ยนสีหรือไม่ สีของฉนวนเปลียนไปจากบริเวณใกล้ กันหรือไม่ อันนี้เป็นจุดสังเกตุที่สำคัญ บางที่เราจะเห็นเป็นคราบไหม้ที่จุดต่อ อาทิเบรคเกอร์ ตรงนี้ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน

 โดยทั่วไปแล้ว สายไฟฟ้าจะมีอายุประมาณไม่เกิน 10-15 ปีในอากาศแบบบ้านเรา แต่ที่เราใช้งาน เราไม่เคยเปลี่ยนเลย นั้นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ

เบรกเกอร์กันไฟดูด(ELCB) อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับปกป้องเราและคนที่เรารัก

 
หลายครั้งที่เราๆได้ยินเรื่องไฟฟ้าดูดหรือจะเรียกว่า ซ็อต ตามภาษาชาวบ้านแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีเลย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วโรงเรียนน่าจะพอมีงบประมาณในการปรับปรุง ที่ดื่มน้ำหรือตู่เย็นที่เด็กต้องกดดื่ม หลายแห่งก็มักจะอ้างว่าราคาแพงโรงเรียนไม่มีงบประมาณ วันนี้ผมจึงตั้งใจที่จะให้ความจริงเรื่องเบรกเกอร์ทั่วไปและ เบรกเกอร์กันไฟดูด เพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้น
ก่อนอื่นผมอยากให้เราเข้าใจการทำงานของเบรกเกอร์ทั่วไปก่อน เบรกเกอร์ทั่วๆไป จะตัดไฟด้วยเงื่อนไข ที่มีกระแสไฟฟ้าเกินกว่าที่เบรกเกอร์จะทนได้ เช่นเบรกเกอร์ขนาด 30 แอมแปร์ หากกระแสที่ไปผ่านเกิน 30 แอมแปร์ มันจึงจะตัด ซึ่งในการที่เกิดไฟฟ้าดูดเรากระแสมันจะเพียงเล็กน้อย อาจมีไม่ถึง แอมแปร์ด้วยซ้ำ ดังนั้นโอกาที่เบรกเกอร์ชนิดนี้จะตัดไฟฟ้าจากการดูดเราแทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงมีการพัฒนาเบรกเกอร์กันไฟดูดหรือที่เราเรียกว่าEarth Leakage Circuit Breaker (ELCB) ขึ้นมา คุณสมบัติของมันคือ มันจะตัดไฟเมื่อมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกจากสายไฟ หรือวงจรปกติ ง่ายๆ คือไฟดูดกระแสไฟจะไม่ไหลกลับเข้าสู่วงจรปกติ โดยมาตรฐานทางวิศวกรรมไฟฟ้า กำหนดให้ไม่เกิน 30 มิลลิแอมแปร์ หรือ  0.03 แอมแปร์ และ ต้องไม่สามารถปรับระดับการรั่วไหลได้ สำหรับแบบที่ปรับการรั่วไหลได้จะเป็นแบบที่ผลิตในบ้านเราเป็นส่วนใหญ่ และจะไม่ได้รับมาตรฐานทางวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งผู้ผลิตจึงมักอ้างมาตรฐานทางโรงงานแทนเช่นได้ ISO 9001 อะไรประมาณนี้ อันนี้คนล่ะเรื่องครับ ไม่ใช่มาตรฐานทางวิศวกรรมที่กล่าวถึงเลย อันนำมาสู่ความเข้าใจที่ผิดอย่างมาก  สำหรับบ้านหนึ่งหลังอย่างเช่น บ้านเดี่ยวที่ใช้มิเตอร์ 10 แอมแปร์ เราก็ใช้ ELCB. ขนาด 30แอมแปร์ และมีอัตราการรั่วไหลไม่เกิน 30 มิลลิแอมแปร์ เท่านี้ก็เพียงพอ สำหรับราคา ก็ประมาณ 400-800  บาทเท่านั้น ถูกกว่าเครื่องที่ผลิตในไทยถึง 10 เท่า ท่านสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ตามร้านขายเครื่องไฟฟ้า โลตัส โฮมโปร์ เป็นต้น  อีกทั้งส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้แทนเบรกเกอร์ตัวเก่าได้เลย. ดังนั้นจึงไม่ยุ่งยากในการที่จะติดตั้ง. อย่างไรก็ตามเพื่อให้เราสามารถใช้งานมันได้อย่างมั่นใจ ควรมีการตรวจสอบความพร้อมของเครื่องอย่างน้อยๆสักเดือนล่ะครั้ง ครับ โดยที่ตัวเบรกเกอร์จะมีปุ่มกดให้ทดสอบการทำงานของเครื่อง ปุ่มนี้จะจำลองว่าหากเกิดการไฟดูดเรามันจะทำงานหรือไม่ หากมันทำงานถูกต้องเบรกเกอร์ต้องตัดไฟ หรือไฟดับครับ(ตามภาพตัวอย่างข้างบน) 
จากที่ผมกล่าวข้างต้น จึงสรุปได้ว่างบประมาณในการเปลี่ยนเบรกเกอร์จึงไม่น่าเป็นข้ออ้างได้สำหรับโรงเรียน  อย่างไรก็ตามหากท่านที่จะทำบุญในช่วงปีใหม่ผมก็ขอให้ท่านบริจาคเบรกเกอร์แบบนี้ให้กับโรงเรียน มันน่าจะเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เท่ากับการให้ชีวิตและโดยเฉพาะชีวิตของลูกหลานเรา น่าจะเป็นการให้ที่มีคุณค่ามาก ฺฺฺ
ขอบคุณ http://www.skytec.info/

ปลั๊กไฟฟ้าราคาถูก-กับอันตรายที่ไม่น่ามองข้าม

ผม อยากจะเขียนเรื่องนี้มานาน แต่พอจะเขียนก็ลืมทุกที่ วันนี้เจอปลั๊กที่ ขายลดราคาตาม ห้างสรรพสินค้า เห็นคนแห่ซื้อเลย มองด้วยความวิตกว่ามันจะ คุ้มไหมที่ใช้ ปลั๊กที่มีราคาถูก และคุณภาพแย่ เสียบไม่กี่ครั้ง ก็เกิดอาการหลวม
พราะการ ที่ ปลั๊กหลวมจะเป็น สาเหตุแรกที่ทำให้ การเดินของกระแสไฟฟ้า ไม่สะดวก และเกิดอาการอาร์ค หรือ เกิดการหลอม ของหน้าสัมผัส แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ เมื่อเกิดความร้อนมาก พลาสติก จะเกิดการหลอม และ ทำให้ ขั้วไฟฟ้า เกิดการซ็อต ผลจะเกิดการลุกไหม้ นี้เป็นสาเหตุหลักๆ ในการเกิดไฟไหม้ในบ้าน ดังนั้นหากจะ ซื้อปลั๊กสักตัว หาซื้อปลั๊กที่มีมาตรฐาน มาใช้จะดีกว่าเพราะเราไม่ได้ซื้อทุกวัน คำถามจะดูงัยว่ามีมาตรฐาน ผมตอบให้ง่ายๆ ดูที่วัสดุ พลาสติก และ ราคา โดยทั่วไปราคาจะอยู่ราว 500-700 บาท ที่ความยาว เมตร ครับ
ขอบคุณ​ http://www.skytec.info/ 

รับเดินสายไฟ เพิ่มปลั๊ก ย้ายปลั๊กไฟ ภายในบ้าน อาคาร ร้านค้า

นิติพัฒน์การช่าง โทร. 089-652-5335
- รับเดินสายไฟ เพิ่มปลั๊ก ย้ายปลั๊กไฟ ซ่อมแซมไฟฟ้า ภายในบ้าน อาคาร ร้านค้า
- บริการตรวจเช็คสภาพสายไฟ ปลั๊กไฟ สวิทย์ และ อุปกรณ์ ไฟ้ฟ้า อื่นๆ ฯลฯ
- รับซ่อม, เปลี่ยน, แก้ไข, เพิ่มเติม รับติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า 
- รับเหมาต่อเติมงานไฟฟ้าในบ้าน ไฟประดับ ไฟตกแต่งภายใน ตกแต่งสวน ไฟประดับต้นไม้ ประดับร้านค้า

>> ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่ง เพิ่มเติม ต่อเติม ซ่อมแซม ย้ายจุด เปลี่ยนหลอด งานแก้ไข งานเล็กงานน้อย เราก็ทำ โทรมาคุยกันก่อนได้

ติดต่อสอบถาม โทร.089-652-5335 นิติพัฒน์
http://nitipat-tun.blogspot.com/
พื้นที่ให้บริการ เขต พัทยา  จอมเทียน เทพประสิทธิ์ นาเกลือและพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด